บทที่ 5

สรุปผลและอภิปรายผลงาน

สรุป

   การทำโครงงานพื้นฐานการตีกลองที่สวยครั้งนี้ทำให้สมาชิกในกลุ่มช่วยกันสืบค้นหาข้อมูลและปฏิบัติเป็นรูปเล่มโครงงานและทำเป็นของหวานเพื่อให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ และนอกจากนี้ยังเป็นการศึกษาวิธีการทำ และลงมือปฏิบัติได้ด้วยตนเอง

อภิปราย

1.            สามารถนำเอาโครงงานมาเป็นแบบอย่างในการศึกษาข้อมูลในการทำครั้งต่อไป

2.            ใช้ประโยชน์จากรูปเล่มโครงงานไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

3.            นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน

           ในการทำโครงงานเรื่องพื้นฐานการตีกลองในครั้งนี้ ทำให้ได้รู้และศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ มาประยุกต์ใช้และได้รับประโยชน์ ดังนี้

1.            รู้และนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกวิธี

2.            ได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งต่างๆและนำมาจัดทำเป็นรูปเล่มโครงงาน เพื่อการศึกษาต่อไป

3.            นำไปประกอบการเรียนรู้ในวิชาที่เกี่ยวข้อง

4.            ได้เรียนรู้และฝึกทักษะการตีกลองที่ถูกวิธี

 

                                              เคล็ดลับการตีกลอง

เคล็ดลับ และความลับของมือกลอง

เมื่อเปลี่ยนหนังกลอง อย่าลืมเขียนวันที่เปลี่ยนตัวเล็กๆไว้ที่ด้านข้างของหนังด้วย เพราะมันจะช่วยให้คุณรู้ว่าใช้หนังนี้มานานแค่ไหนแล้ว ควรจำไว้เสมอว่าไม่มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนที่บอกว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนหนัง เพราะมันขึ้นอยู่กับเสียงตอนนั้น ความหนักและความบ่อยที่คุณตีกลอง

การซ่อมแซมสายสแนร์
วัสดุภายในบ้านคุณที่สามารถซ่อมแซมคำว่า ริธึ่ม สะกดด้วย Rhythm ไม่ใช่ Rythem
ความสำเร็จ(Success) มันคือจินตภาพของคุณที่อยู่ในสายตาของผู้ชม บางคนอาจหมายถึงการได้เล่นออกTV การได้เล่นกับศิลปินดัง ในขณะที่บางคนหมายถึงหนทางง่ายๆสู่ความร่ำรวย แต่ความหมายที่บัญญัติโดยWebstes คือ ความมีชื่อเสียง ความร่ำรวย และการบรรลุสิ่งที่มุ่งหวังไว้ แต่ อยากให้ความหมายความสำเร็จคือการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการได้รับความสุข

Wipe Out คือการรวม Single,Double และ Triple Paradidles เข้าด้วยกัน ต้องฝึกไปเรื่อยๆจนกว่าคุณจะเพิ่มความเร็วได้เต็มที่ ซึ่งมันเป็นรูปแบบการฝึกมือยอดเยี่ยมคือ
R l r r ,L r l l ,R l r l ,r l r r ,L r l r ,l l R l ,r l r r ,L r l l (ตัวเข้มหมายถึงเน้น)
การเป็นผู้สอนตีกลอง เป็นแรงจูงใจที่ยอดเยี่ยม เพราะคุณจะได้เรียนรู้อย่างมากและนักเรียนของคุณจะทำให้คุณรู้สึกท้าทายอยู่เสมอ และเมื่อคุณสามารถอธิบายความรู้ด้านกลองให้ลูกศิษย์ฟังได้อย่างชัดเจน นั่นหมายความว่าคุณเข้าใจมันอย่างแท้จริงแล้ว

ได้อย่างเร็วคือใช้ลวดที่ขึงกรอบรูป หลอดพลาสติก หรือหนังกลองแผ่นเก่าที่เปลี่ยนออกไปแล้วมาตัดใช้ใหม่

การวอร์มก่อนเล่น
ควรใช้เวลา 20-30 นาทีในการวอร์ม ด้วยเบสิคพื้นฐานทั่วไป มากไปกว่านั้นหากคุณวอร์มไปพร้อมกับเสียงเพลงจะช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจให้คุณ ยังช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ ผ่อนคลายขณะตีกลองทำให้เล่นออกมาได้เต็มศักยะภาพของคุณ

Pad ซ้อม
ควรวาดวงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2นิ้วไว้ตรงกลางเพื่อเป็นจุดที่คุณควรตีตรงแหน่งนี้

กลองชุด
ยังมีการเข้าใจผิดว่าคุณต้องการกลองชุดไว้เพื่อฝึก/เล่นเท่านั้น แต่คุณก็ยังสามารถฝึกตีอากาศหรือใช้เท้าเหยียบพื้นเป็นจังหวะ เนื่องจากมันช่วยให้กล้ามเนื้อของคุณจดจำการเคลื่อนไหวนั้นได้

 

 

พาราดิเดิ้ล
เพิ่มการทักษะในการ Control โดยการฝึกตีเน้นในจังหวะยก คือ r L r r , l R l l หรือ r l r R , l r l L (ตัวใหญ่หมายถึงเน้น) อย่าลืมใช้เท้านับจังหวะ 1 2 3 4 ด้วยนะ

                                        

 

บทที่ 4

ผลการเรียนรู้

             จากการศึกษาค้นคว้าและฝึกขั้นพื้นฐานการตีกลองคือพวกเราได้เรียนรู้วิธีการฝึกทักษะพื้นฐานในการตีกลอง     และส่วนประกอบ ข้างล่างนี้

 

                                       ส่วนประกอบของกลองชุด

 

1.            กระเดื่อง

2.            สแนร์

3.            ทอม 1

4.            ทอม 2

5.            ทอม  3

6.            ไฮแฮท

7.            กลองใหญ่

8.            แฉ

บทที่ 2

วัสดุอุปกรณ์และขั้นตอนการดำเนินงาน

 

         วัสดุอุปกรณ์

1. ปากกา
2. ดินสอ
3. ยางลบ
4. ไม้บรรทัด
5. สมุด
6. ลิขวิด

ขั้นตอนและวิธีการดำเนินงาน

1.               แบ่งกิจกรรตามหน้าที่

2.               สืบค้นหาข้อมูล

3.               รวบรวมข้อมูล

4.               จัดทำเป็นรูปเล่มที่สวยงาม

5.               จัดทำเป็นโครงงานนำเสนอ

บทที่1

บทนำ

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

                         กลองชุดเป็นชื่อเรียกภาษาไทย มีความหมายถึง กลองหลายใบ ภาษาอังกฤษ
     ใช้ Team Drum หรือ Jass Drum ทั้งสองชื่อมีความหมายเหมือนกัน คือ การบรรเลงกลอง
  ครั้งละหลายใบ คำว่า “แจ๊ส (Jass) หมายถึง ดนตรีแจ๊ส ซึ่งใช้กลองชุดร่วมบรรเลง จึงเรียกว่า Jass Drum และยังมีชื่อเรียกกลองชุดเป็นภาษาอังกฤษ ว่า Dance Drumming หมายถึงกลองชุดใช้บรรเลงจังหวะเต้นรำ
กลองชุดประกอบด้วย กลองลักษณะต่างๆหลายใบ และฉาบหลายอันมารวมกัน โดยใช้ผู้บรรเลงเพียงคนเดียว กลองชุดนี้ตามประวัติของดนตรีไม่ปรากฏว่าได้เข้าร่วมบรรเลงกับวงดนตรีดุริยางค์สากล ซึ่งเป็นวงดนตรีขนาดใหญ่ แต่ใช้บรรเลงร่วมกับวงดนตรีแจ๊ส และวงดนตรีที่มีเครื่องดนตรีน้อยชิ้นบรรเลงได้แก่ วงคอมโบ้ (Combo) วงสตริงคอมโบ้ (String Combo) ฯลฯ

กลอง จัดว่าเป็นเครื่องดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดในจำพวกเครื่องดนตรีทั้งหมด ในอดีตมนุษย์
ขึงหนังสัตว์บนรูกลวงของท่อนไม้ และตีหนังสัตว์ด้วยนิ้วและมือ จากการศึกษาประวัติศาสตร์พบว่า คนตีกลองพื้นเมืองจะตีกลองเป็นจังหวะ สำหรับการเต้นรำระหว่างเผ่า แต่ปัจจุบันพบว่า การบรรเลงกลองชุดจะเด่นที่สุดในส่วนของวงดนตรี สำหรับการเต้นรำ คนตีกลองพยายามปรับปรุงวิธีการ

จุดมุ่งหมายของโครงงาน

1.             เพื่อเรียนรู้ส่วนประกอบของกลองชุด

2.             เพื่อฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม

3.             เพื่อฝึกการตีกลองพื้นฐาน

4.             เพื่อศึกษาประวัติและวิธีการตีกลอง

สมมุติฐาน

หวังว่าจะได้รับประโยชน์จากการทำโครงงาน เพื่อนำไปประกอบอาชีพในอนาคต และสามารถนำไปถ่ายทอดความรู้ให้กับรุ่นน้องได้อีกต่อไป

ขอบเขตการศึกษา

ศึกษาจากเว็บไซต์และสอบถามบุคคลที่รู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของกลองชูด

 

ความรู้ทั่วไป

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกลองชุด

กลองชุดเป็นชื่อเรียกภาษาไทย มีความหมายถึง กลองหลายใบ ภาษาอังกฤษ

ใช้ Team Drum หรือ Jass Drum ทั้งสองชื่อมีความหมายเหมือนกัน คือ การบรรเลงกลอง

ครั้งละหลายใบ คำว่า “แจ๊ส (Jass) หมายถึง ดนตรีแจ๊ส ซึ่งใช้กลองชุดร่วมบรรเลง จึงเรียกว่า Jass Drum และยังมีชื่อเรียกกลองชุดเป็นภาษาอังกฤษ ว่า Dance Drumming หมายถึงกลองชุดใช้บรรเลงจังหวะเต้นรำ

กลองชุดประกอบด้วย กลองลักษณะต่างๆหลายใบ และฉาบหลายอันมารวมกัน โดยใช้ผู้บรรเลงเพียงคนเดียว กลองชุดนี้ตามประวัติของดนตรีไม่ปรากฏว่าได้เข้าร่วมบรรเลงกับวงดนตรีดุริยางค์สากล ซึ่งเป็นวงดนตรีขนาดใหญ่ แต่ใช้บรรเลงร่วมกับวงดนตรีแจ๊ส และวงดนตรีที่มีเครื่องดนตรีน้อยชิ้นบรรเลงได้แก่ วงคอมโบ้ (Combo) วงสตริงคอมโบ้ (String Combo) ฯลฯ

กลอง จัดว่าเป็นเครื่องดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดในจำพวกเครื่องดนตรีทั้งหมด ในอดีตมนุษย์

ขึงหนังสัตว์บนรูกลวงของท่อนไม้ และตีหนังสัตว์ด้วยนิ้วและมือ จากการศึกษาประวัติศาสตร์พบว่า คนตีกลองพื้นเมืองจะตีกลองเป็นจังหวะ สำหรับการเต้นรำระหว่างเผ่า แต่ปัจจุบันพบว่า การบรรเลงกลองชุดจะเด่นที่สุดในส่วนของวงดนตรี สำหรับการเต้นรำ คนตีกลองพยายามปรับปรุงวิธีการ

บรรเลง โดยบรรเลงตามจังหวะที่ได้ยินแล้วนำมาปรับปรุงโดยการคิดค้นระบบใหม่ขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นระบบที่ได้ริเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรก โดยการบันทึกอัตราส่วนของจังหวะกลองในบทเพลง การบันทึก

บทเพลงนั้นประกอบด้วย ทำนองเพลง การประสานเสียงและจังหวะ ทำให้ดนตรีมีการประสานเสียงกลมกลืน เพิ่มความไพเราะมากยิ่งขึ้น การริเริ่มพัฒนากลองชุดเป็นครั้งแรก โดยเริ่มต้นจากบทเพลงจังหวะวอลซ์ (Waltz)